Mukmik Space

Just another WordPress.com site

คน คือ สิ่งมีชีวิต ที่เข้าใจยากที่สุด

……….เค้าว่ากันว่า รู้หน้าไม่รู้ใจ   บางที รู้ใจ ก็ไม่รู้ความคิด

คนเปลี่ยนความคิดได้ตลอดเวลา  ไม่เคยมีอะไร หยุดนิ่ง ……………..

ฉนั้น คน  เลยเปลี่ยนไป  ตลอด ไม่เคยมีใคร เลย ที่จะเหมือนเดิมไปได้ตลอดนิรันด์

              ไม่ได้เป็นคนโง่ อะไร มากมาย แต่ ไม่เคยเข้าใจคนเลย

หรือ เราง่าย ๆๆ เกินไป  อะไรที่ซับซ้อนเลยไม่เข้าใจ….  ทำตัวง่ายๆ  ให้เข้าใจง่าย ๆ ได้ ป่ะ  เหนื่อย

1 ความเห็น »

ใส่ใจ กัน เบา เบา

        เคยได้รับการใส่ใจ  และเคยใส่ใจใครไหม    

                          เธอ เอายาแก้ไอมาให้  เพียงเพราะฉันโพส ไว้ว่า .. ไออีกแล้ว  ไม่หายสักที …

…เธอ พยายามเดินหา ดอกกุหลาบ สีม่วง  เพียงเพราะฉัน ชอบสีม่วง  ในวัน Valentine .

                     และเธอบอกว่า  เราจะยังคบหากัน ไปจนแก่ เลย ทีเดียว บนยอดดอยที่หนาวที่สุดในสยาม

เธอ คือ มิตรภาพ ที่น่ารัก ของฉัน  แต่เธอเป็นคนที่ร้ายกาจ  แต่ฉันรู้ ว่าเธอเป็น คนดีที่สุดคนนึง…

             เธอเป็นคนที่ พูดเก่ง ที่สุดในโลก และฉัน ก็ยังพร้อมที่ จะฟังเธอ ……

                 ………….เธอ มักบอกว่า ฉันดุ  แต่ก็นั่นแหละ ก็เพราะฉันเป็นห่วงเธอ …………….

                                 ใคร ๆ ก็ ว่า เธอเป็นคนเก่ง และโชคดี  แต่เธอมักคิดว่าตัวเธออาภัพที่สุดในโลก  แต่ก็อีกแหละ เธอไม่เคยจนหนทาง…

เธอใส่ใจฉันเสมอ  จนใจ คิดว่า บางที ฉันใส่ใจเธอน้อยไป  หรือเปล่า ???    แต่ ก็นะ   ฉัน มัน เป็นคนอย่างนี้แหละ >>> บางทีใครก็ว่าฉัน เย็นชา..

     เธอจดจำทุกคำพูดและข้อความ  แต่ฉัน ไม่ค่อย ใส่ใจอะไรพวกนั้น ….อาจเป็นเพราะความจำฉันไม่ค่อยดี  หรือเปล่า ..

           หรือเป็นเพระเธอใส่ใจ   แต่ฉันไม่ใส่ใจ………  แต่ถ้าถามว่า   ….

                                เธอรักฉัน หรือ เปล่า แอบเข้าข้าง ตัวเอง ว่าเธอรักฉัน เพราะเธอบอกอย่างนั้น   และฉันก็รักเธอนะ 

มิตรภาพ  นิรันดร์  ของฉัน By Mukmik.

5 ความเห็น »

Sleeplate.

Chapter.1 หลับ

หลังจากที่นั่งหลังขดหลังแข็ง  มาหลายชั่วโมง  กับหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ  ของคอมพิวเตอร์เครื่องโปรดของฉัน  โลกกว้างในกรอบสี่เหลี่ยม เล็ก ๆ  ของฉัน  ทีอยู่เป็นเพื่อนที่ดีกับฉันเสมอ  มีตัวอักษรวิ่งผ่าน Timeline เข้ามาเป็นประโยคจากเพื่อนคนนึง  “คืนนี้ฝนตก  คงนอนหลับสบาย ”   (หือ จริงหรือ ฝนตก ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ฉันคิดอย่างนั้น  )

ฉันลุุกขี้นเดินออกไปยังห้องนอน  เปิดม่านที่ปิดสนิทไปยังปลายสุด  ลากผ้าที่ปิดกั้นฉันจากโลกกว้างออกไป  ด้วยการออกแบบ ที่เป็นกระจกจากบนสุด จรดพื้น   ฉันมองเห็นโลกอีกครั้งเป็นแบบ 180 องศา แสงระยิบระยับของดาวบนดินย่านรัชดา ยังคงเหมือนเดิม และที่เหมือนเดิม คือความเงียบงัน  ทั้ง ทั้งที่ฉันอยู่ท่ามกลางใจเมืองมองเห็นแสงสี ของที่่แห่งนี้ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา  

                                              ท้องที่แห่งนี้ แสงสีของที่นี่มีทั้งวันทั้งคืนจริง ๆ แต่แปลก วันนี้ทำไม เงียบจัง  เงียบกว่าทุก ๆ วันที่ผ่านมา   …..  ที่ริมกระจก ฉันเปิดหน้าต่างบานนึงออก ผลักมันออกไปให้สุด เหมือนกัน  และโผล่หน้าออกไป มีลมโกรกผ่านหน้าฉันเบา ๆ เปรียบประนึงมีคนมาปลอบ ฉันอยู่ใกล้  ๆ   ฉันสูดลมหายใจเข้าไปในปอดลึก ได้ยืนรับลมเอื่อย ๆ แบบนี้  ฉันรู้สึกปรอดโปร่งขี้นเยอะเลย  ฉันสูดลมหายใจเข้าแรง ๆ อีกครั้ง ครั้งนี้มันมาพร้อมกลิ่นฝน ปะปนมาด้วย ….  ^^    คืนนี้ ฝนต้องตกแน่ ๆๆ ฉันได้กลิ่นของมัน(นึกถึงประโยคที่เห็นจากคอมพิวเตอร์ของพี่ ที่โพสขี้นมาทันที ) …………….. แต่เมื่อแหงนมองท้องฟ้าอีกครั้ง ฟ้าโปร่งนี่น่า ……………… มันจะตกได้อย่างไร …..จมูกฉันเพี้ยน ไปหรือ นี่ .. เป็นไปได้   

                              และนี่ เป็น ตี 3 ของวันใหม่เข้าไปแล้ว ฉันยังคงนอนไม่หลับเหมือนเดิม ยังคิดถึงเรื่องฝัน คืนก่อน แล้ว ยัง หวาดไม่หาย ถ้าฉันหลับลงไปอีกครั้ง ยังจะฝันแบบนั้นอีกหรือเปล่า ไม่น่าเลย ฝันแบบนี้ซ้ำ ๆ กัน ฉันคงกลายร่างเป็นแพนด้า ในสักวัน ………….

11 ความเห็น »

หลับ

กึก ๆๆๆ เสียงฝีเท้ากึกก้อง ดังเข้ามาที่โสตประสาท เสียงนี้ อีกแล้ว ฉันพยายามแพ่งมองออกไปยังสถานที่มืดมิดแห่งนี้้ ที่ไหนกัน ฉันเห็นรู้สึกคุ้นเคยอย่างไรพิกล แต่มันมืดจนมองไม่เห็นอะไรเลยแม้แต่ฝ่ามือของตัวเอง มืดจนไม่ทราบด้วยซ้ำว่า เสียงฝีเท้านั้น มาจากทางไหนกัน มันก้องกังวาล อยู่ในหัวฉันไปทุกทิศทุกทาง   แอ๊ะ นั่น ใคร แล้ว ที่นี่ ที่ไหนกัน ………………..
                                              เสียงนั้นเข้าใกล้ฉันมาทุกทีทุกที เสียงมันสะท้อน เหมือนผนัง ใช่ผนัง มัน ต้องเป็น ห้อง หรือ ถ้ำที่ไหนสักแห่ง มีคำถามผุดขี้นมาท่ามกลางความมืดมิด มากมาย…………….ยามมองตรงไปข้างหน้าฉันเริ่มเห็นแสงสว่างเรืองรองเข้ามาทีละน้อย แสงวูบวาบ นั้น เริ่มเข้ามาใกล้ ฉันเรื่อย ๆๆ มันสั่นไหววูบวาบ แปลก ไม่เคยเห็นลำแสงแบบนี้มาก่อน มันทำให้ฉันเริ่มเห็น ผนังตีกสูงตระง่าน มันโอบล้อมตัวฉัน ทำให้รู้สึกเหมือนมนุษย์ตัวจ้อย ที่อยู่ท่ามกลางสิ่งก่อสร้างมหึมา ขณะที่มัวมองหาที่สิ้นสุดของความสูงอยู่นั้น พรึบ ….!!!

………………………แสงสว่าง ที่ว่านั้นอยู่ๆ ก็ จ้าขี้นมาเอามือปิดหน้า เปิดตาไม่ได้เลยทีเดียว อะไร กันนี้ อีกแล้วหรือ เฮ้อ !! ฉันสดุ้งสุดตัว อีกแล้ว ฉันฝันไป อีกแล้ว ………..ฉันตกใจตื่น พร้อมเม็ดเหงื่อ ที่ผุดพลายเต็มใบหน้า เสียงจังหวะก้าวเดิน ของใครก็ไม่รู้ ยังกึกก้องอยู่ในหัวฉันอยู่เลย

ตอน 2 sleeplate

8 ความเห็น »

วันวาน ผ่านเลยไป

                            เดือน นี้ เดือน อะไร   พฤศจิกายน หรือ  พฤศจิกายน สำหรับฉันผ่านไปกี่ครั้ง แล้ว แล้ว เธอละพฤศจิกายน ของเธอผ่านไปกี่ครั้งแล้ว

แล้ว คน ที่เรารู้จีก ผ่าน ไปกี่คนแล้ว   แล้ว ยังเหลืออยู่ในปัจจุบัน กี่คน    1 ปีมานี้ รู้ จักคนเพื่ม กี่คน….. 

                                 รู้จักคนใจดี กี่คน  ….  รู้จักเพื่่อนกี่คน   …..  รู้จักคนสำคัญกี่คน……  ?????   จำกันได้หรือเปล่า

แล้วเค้าเหล่านั้น ละ จะจำเราได้หรือเปล่า  หรือ ว่าลืมกันไปแล้ว……………………. 

         แต่อยากบอกว่าไม่ได้เสียใจ   ที่รู้จักคุณนะค่ะ   สิ่งไหนผิดพลาดไป  เรารู้ว่าเป็นการตัดสินใจของเราเอง  เราต้องรับผิดชอบความรู้สึกตัวเอง   U   U

2 ความเห็น »

การสื่อสารที่ขาดหาย กับ กาลเวลาที่หายไป

ตอนที่ 1 ไม่มีใครโชคร้ายตลอด และ ก็ไม่มีใครที่โชคดี ตลอดเช่นกัน

….เคยได้ดูโฆษณา  แฮปปี้  ในโรงหนัง ของเครือ SF  กันบ้างหรือ ป่าว  

             จำเรื่องการปิดเครื่องมือสื่อสารก่อนดูหนังกันได้มั้ย..  เรื่องโทรจิตนะชอบมาก

ไม่เคยคิดว่า โทรศัพท์   จะเป็นอะไรที่สำคัญกับชีวิต มากมาย  ไม่เคยคิดว่าการสื่อสารฝ่ายเดียว มัน จะลำบากอะไร …

                                        และไม่เคยคิดว่า สักวันนึงถ้าไม่มี จะลำบากแค่ไหน

         แล้ววันนี้ก็มาถึง  เมื่อโทรศัพท์หายไป ……………หายไป ในที่นี้  คือ วันที่ โทรศัพท์ หายไปจากชีวิต ฉัน   …..

……………..การหายไปของโทรศัพท์วันแรก    ทำให้ฉันตื่นสาย  …..เกือบเข้างานไม่ทัน 

                                                       OMG !!!  …. สาม ทุ่ม   นี่มันอะไรกัน  ทำมัย ไม่มีใครปลุกกันเลย  โทษคนอื่นอีก

               ตื่นขี้นมาหาโทรศัพท์ แบตเตอรี่  ตัวดี นอนนิ่งสนิท  ไม่เหลือ สักอึดใจเดียว  จับเสียบปลั๊ก  เฮร้ย ไม่ติด

                                                                   วิ่ง หาปลั๊กอื่น เสียบใหม่  เฮ้อโล่งชาร์ตได้แระ

          ..   รีบอาบน้ำด้วยความเร็วปานสายฟ้าแลบแล้วรีบ ลงมาจากคอนโด  …………..

……………… วันนี้ คอนโด ชั้น 12 ที่อาศัยอยู่ทำมัย มันใช้เวลาในการเดินทาง ยาวนานเยี่ยงนี่  …..

     ออ … ก่อนลงมา ก็ไม่ลิมที่ จะคว้านาฬิกา ติดกระเป๋ามาด้วย  กลัว ที่ชาร์ตไว้ เสี้ยววินาทีนั้น จะไม่พอ ทำให้ไม่รู้เวลา

ลงมาถึงโชคดีของฉัน  มีรถเข้ามาส่งคนในคอนโด พอดี …………..

Mukmik: เทพารักษ์  ไปมั้ยค่ะ  ( ไกลอ่ะ จะไปไหมหว่า )

Taxi : (ทำสีหน้าครุ่นคิด  ได้โปรดไปเถอะนะภาวนาในใจ ) ตรงไหนคับ

Mukmik :  ก่อนแยกนิดหน่อย ค่ะ ( ทำเสียงอ่อย ๆ ไม่ไปแน่เลยอ่ะ จิตตกอีกแระ)

Taxi : ไปคับ  (แม่เจ้า รีบขี้นรถ  รีบปิดประตู กลัวเค้าเปลี่ยนใจ) 

            โชคดี ที่พี่ Taxi คนนี้ ขับ ออกเส้นทางที่โอเค และทำความเร็วในระดับที่พอใจไม่ได้ไปบอกเร่งเค้า  นึกในใจยังโชคดีนะนี่

นั่งไปได้สักพัก หยิบนาฬิกาที่ คว้าติดมาในกระเป๋าขี้นมาใส่ที่ข้อมือ  เหลือบไปดูว่า กี่ทุ่มแล้ว 

                                                      … โอ้วววววววววววอารายกัน  นาฬิกาตาย  ฉันเป็นคนไม่รู้เวลา  ……..

นั่งจิตตก ตุ้ม ๆๆต่อม ๆๆ  ตลอดทาง…………….แต่  พี่เค้าซี่งหน้าดู  

                                เหมือนรู้ใจกันอย่างไรอย่างนั้น  รถก็ไม่ติด  โชคเป็นของเราอีกแล้ว … นั่งยิ้มให้กับตัวเอง หุหุ…

   ท่าจะบ้าไปแล้ว..ดีที่โทรศัพย์ ยังพอ ที่จะเปิดขี้นมาได้หน่อย นึง   แต่เสียงแบตเตอรี่ ก็ได้ส่งเสียงตืน ตลอดเวลา ….. และแล้วมันก็

มันก็ ลาฉันไปอีกรอบ  หมดกัน เวลาไม่มีเวลา  … การสื่อสารถูกตัดขาด ……………………….

        การ รู้สึกเหมือนตัวเอง ถูกปล่อย ให้เคว้งคว้างกลางทะเลกว้าง ไม่รู้ทิศเหนือใต้ อย่างไรอย่างนั้น………

                แต่ดูจากที่หน้าปัดบอกความเร็วรถ เราหน้า จะทันอยู่นา            เมื่อใกล้ถึง  ก็หยิบกระเป๋า สตังค์ขี้นมา 

                  เปิดกระเป๋าเตรียมจ่ายค่ารถ   มิเตอร์ตอนนี้  159 บาท ขอร้องออกมาอีกทีว่า  แม่เจ้า  !!!!

 ตังค์ในกระเป๋ามี 20 บาท  กรรมอารายของฉันนี่วันนีี้   ……….. แต่ก็โชคดีอีกหล่ะ วันนี้ฉันพกบัตรเอทีเอ็ม มาด้วย เฮ้อ รอดไป

              พอถึงให้คุณพี่ Taxi จอดรถ  ก็บอกไปตามตรง  ด้วยน้ำเสียงที่ คิดว่าดูดีที่สุดแล้ว พี่ค่ะ รอแป๊บนึงนะค่ะ ไปกดตังค์ให้ก่อน …

พี่เค้าจะตอบว่าอะไรไม่รู้ รีบวิ่งลงจากรถ  รีบกด รีบ เอาไปให้  …ยื่นให้คุณพี่ ใจดีที่รอเราอยู่ 

                                    (มัยไม่รอละ ค่าโดยสารยังไม่ได้นี่ ) ยืนไปสองร้อย รับตังค์ทอนมา 20

                 ทิปไปนิดหน่อย  กับ การต้องทำให้คนอื่นต้องรอคอยโดยไร้ความผิด อ้าวมัวแต่ โล่งไปได้  ยังไม่ได้ตอกบัตรเข้างานนี่หว่า รีบวิ่ง สุดตีน  … 

หยิบบัตรพนักงาน มา แต่ไกล  เห็นตัวเลขแดง ๆๆ ..21.58  รีบยื่นมือ  (กรุณานึกเป็นภาพสโมชั่น)

                                                      ติ๊ด  ….. วันนี้เสียงแตะบัตรมันดังไพเพราะกว่าทุกวันเวลา 21.59

                                         ………………….เฮ้ย..โชคดีจัง     ทันด้วย…..วันนี้ โชคไม่ดี  และโชคดี กี่ครั้ง… กันนี่ …. 

17 ความเห็น »

เมื่อ 18 เดือน ที่แล้ว …

 
     เวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป  โลกหมุนรอบตัวเองผ่านไปกี่ครั้ง  หมุนรอบดวงอาทิตย์ไปกี่รอบ   .... แล้วอะไรละ ที่เปลี่ยนไป เวลาไม่เคยหยุด  แล้ว เราละเคย หยุดเวลามั้ย  ……………..  “สภาพบุคคลย่อมเริ่มแต่เมื่อคลอดแล้วอยู่รอดเป็นทารก … ตั้งแต่นั้นมา จน วันนี้ ผ่านฤดูกาล ร้อนหนาวมาก็มากมาย  ได้ประสบการ  ทั้งดีและร้าย มาก็เยอะ    มีทั้งคนรัก และรักคน มาก็มาก  มีทั้งคนที่เราเกลียด และบางคนก็คงเกลียดเราก็มี …..             ผ่านมาก็ครึ่งชีวิต แล้ว มานั่งคิดว่า ตอนนี้ เรามีอะไรเปลี่ยนบ้าง ทำอะไรมาแล้วบ้าง แล้ว ก็เริ่มคิดหนักว่าแล้วเราจะทำอย่างไร ต่อกับชีวิต นี้ดี ….. อยู่คนเดียวก็ดี  มีคนอยู่ด้วยก็ดี   อยากเป็นแบบไหน ???                                  แม่เป็นห่วงว่า  ต่อไปเราจะอยู่อย่างไร   ที่ผ่านมาก็ผ่านมาก็อยู่ได้โดยตลอด    จนคิดว่าเราคงอยู่ได้และ มั้ง  haha     ^    ^    .ใช่มั้ย ละ ……                                          ช่วงนี้อากาศดีสดใส  ขอให้ชีวีก้าวหน้าไป สดใสเช่นกัน   รัก คุณแม่ รักคุณพ่อ มากมาย ไม่มีสองท่านนี้ ไม่รู้ว่าจะอยู่ต่อได้อย่างไร  ถึงแม้ว่า จะไม่ได้เป็นลูกทีดีเท่าไหร่  เพราะตั้งแต่มัธยม  มาก็ใช้ชีวิตแร่ร่อนอยู่นอกบ้านมาตลอด(ไม่ได้อยู่ใกล้ชิด ดูแลท่านเลย )   ตั้งแต่อยู่โรงเรียนประจำ  จบมาก็ เดินทางเข้าเมืองกรุง จนถึงปัจจุบัน  ก็ยังอยู่ที่นี่ .(10 ได้มั้ง )……….   เราคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วละ คงปล่อย ไว้แบบนี้ไม่ได้  ……  ท่านเกษียรแล้ว ยัง ต้องทำงานอยู่เลย  เอา ว่ะ  เป็นงัย เป็น กัน  
7 ความเห็น »

3 กรกฎา 2011 จุดเปลี่ยนประเทศไทย

.…… วันนี้ เป็น จุดเปลี่ยนประเทศไทยอีกแล้ว 

                                      ภาวะการเมืองไทยเริ่มเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

พวกคุณ … ไปเลือกอนาคต  กันหรือ ยัง ฉันเลือกแล้ว  เลือกไปแล้ว  ….. ยังหวังไว้ว่า ใครก็ตามที่ได้มีโอกาศพิสูจน์ตัวเอง  พวกท่าน ๆๆ ทั้งหลาย อย่าลืม กัน นะว่าพูดอะไรไว้บ้าง แล้วที่ป้ายโฆษนาอะไรกันบ้าง อย่าลืมเสียละ  ถึงแม้เราไม่พูด แต่เราก็ไม่ได้ลืมนะ  พูดแล้วทำให้ได้กันละ

                           วันนี้ ฉัน แอบได้ยิน เืพื่อนได้พูดว่า เลือกเหอะ ความถูกต้อง สมัย นี้ กินไม่ได้แล้ว เลือก…….ดีกว่า  เอาตัวรอดไปก่อน    เฮ้อ  ถึงแม้ ว่าไม่สามารถ จะมากำหนดได้ว่า อะไร ผิด หรือ ใครถูก   แต่ ก็อยากให้ทุกคนยังมีความรู้สึก  คำว่า ส่วนรวมกันนิดนึงก็ยังดี    (เสียใจ ค่ะ เสียใจ )   อย่าให้คำว่าเห็นแก่ตัว มามีบทบาท ในสังคมไปมากกว่านี้เลย  ทุกวันนี้ ตัวใครตัวมัน  มีเยอะแล้ว  เรายังคิดถึงความเป็นอยู่ สมัย เด็ก  ในสังคมต่างจังหวัด เลย ทุกคนยิ้มแย้ม แจ่มใส  มีไมตรีจิต ต่อกัน อย่าง จริงใจ อยากให้สังคมสยามกลับมากลมเกลียวเหมือนเดิม        อย่าให้ความเห็นต่าง มาทำให้คนที่รักกันต้อง เป็นศัตรูกันเลย นะ

5 ความเห็น »

ความรู้สึกเล็ก ๆ

ความรู้สึกเล็ก ๆ ที่เปลี่ยนความสัมพันธ์ ตลอดกาล  (หรือเปล่า)

กาลเวลาหมุนเวียนนเปลี่ยนผ่านมาเดือนเมษา อีกครั้ง  ครบปีแล้วหรือ นี่

บางครั้งรู้สึกว่าเหตุการณ์นี้มันผ่านไปด้วยความเชื่องช้า  บางครั้ง ก็รู้สึกว่ามันเร็วจัง

ความสัมพันธ์ ของคน สองคน ยังดำเนินผ่าน ไป

พร้อม ๆ กับความห่างเหิน ที่มีกับเพื่อนรักคนนึง ทีี่่นับวัน ยิ่งเพิ่มระยะห่างมากขี้น

เรื่องบางเรื่องมันไม่น่าเป็นไปได้ก็เป็นไปแล้ว

ขอให้ทั้งสองคนมีความสุข นะค่ะ

คนเราหันมองต่างมุม  สิ่งที่เห็น เลยต่างกันใช่มั้ย ??

ทุกวันนี้ ฉันยังอยากมีเธอทั้งสองคนเป็นเพื่อน ของฉันอยู่ แต่เมื่อเธอในนั้น คนนึง

ไม่สามารถให้คำว่า  เชื่อใจ กับฉันได้ ทางเดินระหว่างเรา ก็เลย ต้องมาถึงคำว่าทางแยก

ซึ่งคงเป็นดังนี้ตลอดกาล

เหตุการณ์ที่เกิดขี้น ภายใน 1 วัน สามารถเปลี่ยนความรู้สึกที่มีให้กัน นับสิบปี ได้เลยหรือ

ไม่รู้ว่าเธอเสียใจหรือไม่ แต่ฉันเสียใจ

ไม่น่าเลย ไม่น่ามีอะไรแบบนี้เลยจริง ๆๆ

 

13 ความเห็น »

หัวใจ ” Y “

หัวใจ Y ‘ โรคหัวใจ ‘

ทำให้ประเทศชาติ สูญเสียทรัพยากรน้ำ (ตา) ในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก

‘ โรคหัวใจ ‘ เป็นบ่อเกิดของความแตกแยก หย่าร้าง ไปจนถึงการทำร้ายร่างกาย การรักษาโรคตามอาการไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทางดีที่สุดคือการป้องกัน หัวใจไม่ให้เป็นโรค ขณะที่โรคหัวใจวายอาจเป็นสาเหตุของความตายอันดับต้นๆ อาการ

‘ หัวใจ Y ‘ กลับ ทำให้สดชื่นแจ่มใส หัวใจ Y (Y = Young) คือหัวใจที่เป็นหนุ่มสาวเสมอ ไม่รู้เหนื่อย ไม่รู้แก่ ต่อไปนี้คือเทคนิครักษาสภาพหัวใจของคนที่รักกัน เคยรักกัน และ/หรืออยากรักกันมากขึ้น (สามารถเลือกใช้ได้มากกว่าหนึ่งวิธี)


1 เทคนิคใช้ความอุ่น ( Heart Warming) เป็นเทคนิคโบราณ เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านที่ยังไม่ล้าสมัย เทคนิคนี้ เน้นการให้ความอบอุ่น กับคนรักอย่างเสมอต้นเสมอปลาย เช่น ก่อนแต่งงานเคยมอบกุหลาบแดงแก่คนรัก หลัง แต่งงานแล้วห้าปีสิบปี ก็ยังมอบให้ตลอดเรื่อยๆ (ไม่มีข้ออ้างราคาดอกไม้สูงขึ้นกี่เปอร์เซนต์) ก่อนแต่งงานไปรับ= ส่งแฟน หลังแต่งงาน ก็ยังไปรับส่ง (ไม่มีข้ออ้างเรื่องไม่ว่าง) เทคนิคนี้เป็นหลักสำคัญของการถือไม้เท้ายอด ทอง ถือกระบองยอดเพชร

2 เทคนิคเปลี่ยนหัวใจ (Heart Transplant) การเปลี่ยนหัวใจนี้ทำได้ง่ายมาก นั่นคือ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่ทำในสิ่งที่เรารู้ว่า อีกฝ่ายไม่ชอบ ถ้าทั้งสองฝ่ายรู้จักคิดถึงหัวอกกันและกันสม่ำเสมอ จะไม่มีความบาดหมาง ใดๆ มากวนใจ อนึ่ง อัตราการป้องกันโรคหัวใจด้วยเทคนิคนี้สูงถึง 99.25 เปอร์เซนต์

3 เทคนิคการทำบายพาส ( Bypass Surgery) ในกรณีที่ท่านประสบอุปสรรคในชีวิตคู่ ให้ปล่อยเรื่องไม่ดีผ่าน (Bypass) ออกไปเสีย อย่านำเรื่องไม่ดีเข้าบ้าน ไม่เอาเรื่องไม่ดีของคนรักไปโพนทะนา เทคนิคนี้รวมถึงการ ไม่นินทาชาวบ้าน อัตราการป้องกันโรคหัวใจด้วยเทคนิคนี้สูงถึง 98.5 เปอร์เซนต์

4 เทคนิคการทำบอลลูน ( Heart Balloon) ชีวิตเราต้องเจอเรื่องไม่ดีแทบทุกวัน เทคนิคนี้สอนให้เรารู้จักปล่อยวาง สิ่งร้ายๆ ที่เกิด ขึ้นแล้วก็แก้ปัญหาเสีย เรียนรู้จากประสบการณ์ แต่ไม่เก็บไว้ในใจข้ามปีข้ามชาติ รู้จัก ลอยตัวให้เบาสบายเหมือนลูกบอลลูน

5 เพิ่มระดับความหวาน ( Heart Glucose) แปลกแต่จริง ความหวานไม่มีผลเสียต่อหัวใจเหมือนต่ออวัยวะส่วนอื่นๆ จงเติมความ หวานเข้าไปในหัวใจให้สูงเข้าไว้ เอ่ยคำว่า ‘ รัก ‘ ต่อคนรักบ่อยเท่าที่ต้องการ ( อย่างน้อยวันละครั้งก่อนหรือหลังอาหาร หรือก่อนนอน) เชื่อเถิด กระทรวงสาธารณสุขทั่วโลกรับรองมาแล้วว่าเทคนิคนี้ไม่มีอันตรายอย่างแน่นอน

6 นวดหัวใจด้วยการสัมผัส ( Touching) การสบตากัน การแตะมือเบาๆ การกอดกัน ช่วยทำให้ หัวใจมีคุณภาพดีมาก จากการทด สอบคู่สมรส 14,216 คู่ จากเจ็ดทวีป พบว่าการสัมผัสเบาๆ แต่อบอุ่นทำให้หัวใจวาบ หวามดื่มด่ำ ช่วยให้ร่างกายเพิ่มสารเอนโดรฟิน สบายกายสบายใจขึ้นมาก

7 ลดระดับคาร์บอนไดออกไซด์แก่หัวใจ ไม่ใช้คำหยาบ ไม่กระฟัดกระเฟียด ไม่แดกดัน ไม่ตีวัวกระทบคราด ไม่พูดเรื่องไม่เป็น มงคล มองโลกในแง่ดี จะทำให้หัวใจเต้นเป็นจังหวะดี

8 เพิ่มออกซิเจนเข้าหัวใจ หัวใจต้องการสารอาหารที่สะอาดและมีประโยชน์ ออกซิเจนก็คือ ลมปากหวานหู รู้จักง้อ บ้าง เทคนิคนี้ช่วยป้องกันลิ้นหัวใจรั่ว

9 การช็อคหัวใจ ( Shock Technique) บางครั้งช็อคหัวใจของอีกฝ่าย ที่เรียกว่า ‘ เซอร์ไพรส์ ‘ เช่น พาไปกินอาหารนอก บ้านในที่แปลกๆ พาไปฟังดนตรี ตลอดจนทำกิจกรรมที่ไม่จำเจร่วมกัน

10 การกระตุ้นหัวใจด้วยเสียง ( Sound Therapy) โทรศัพท์หาคนรักบ้าง ( แม้ไม่ถี่เท่าก่อนแต่งงาน) เพิ่มการใช้เสียงกระซิบ ลดการ เสียงกระชาก นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์แจ้งแล้วว่า การลดระดับเสียงลงเพียงไม่กี่เดซิเบลต่อวัน ช่วยทำ ให้ชีวิตคู่ดีขึ้นมาก

11 เทคนิคแยกหัวใจ ( Absence Technique) แยกทางกันบ้าง การไม่เจอหน้ากันตามสมควรทำให้คิดถึงกันมากขึ้น (ที่ฝรั่งว่า Absence makes the hearts grow fonder.) เทคนิคนี้พิสูจน์แล้วว่าทำให้หัวใจ โหยหากันและกันอย่างเห็นได้ชัด

12 เทคนิควางใจ ( Trust) ลดความระแวง ไม่ต้องตามเช็กว่าไปไหน ไม่ต้องแอบตรวจเสื้ออีกฝ่ายว่ามีซากลิปสติก ไหม ไม่ต้องจ้างนักสืบ ฯลฯ วิธีนี้ป้องกันโรคหัวใจรั่วชะงัด

13 เทคนิคบ่มหัวใจ ( Aging Process) ไม่เฉพาะแต่ไวน์ที่บ่มยิ่งนานยิ่งดี หัวใจก็เช่นกัน คนรักกันไม่ควรชิงสุกก่อนห่าม ไม่ควร ผลีผลาม เพราะความรู้สึกที่เราเชื่อว่าเป็นรักอาจเป็นเพียงความหลงใหลชั่วคราว นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า เทคนิคนี้ช่วยเพิ่มสารเคมีที่เรียกว่า Romantica Substance ในหัวใจสูงถึง 81.25 เปอร์เซนต์ (สูตรเคมีคือ R2L2 R = Romantic L = Love)

14 เพิ่มไขมันที่ดี ( HDL) ให้หัวใจ ไขมันชนิดดี ( HDL) จะสร้างความอบอุ่น ป้องกันเรื่องไม่ดีที่มากระทบ ไม่ให้ทำ อันตรายต่อหัวใจได้ HDL (= High Density Love) มาจากการออกกำลังกาย ทำให้หัวใจแข็งแรง พร้อมรับมือเรื่องแย่ๆ ได้ทุกเมื่อ

15 ลดคอเลสเตอรอลที่หัวใจ คอเลสเตอรอลที่เกาะหัวใจเกิดมาจากการเสพสิ่งไม่ดีมากเกินไป ทำให้เส้นเลือดหัวใจ อุดตัน การใช้จ่ายเกินกำลัง การหลงระเริงไปกับบริโภคนิยม ฯลฯ การเสพอย่างพอเพียงเท่ากับช่วยเก็บหอมรอมริบ ช่วยกันประหยัด เพื่ออนาคตของตน เองและครอบครัว

เทคนิคต่างๆ เหล่านี้ต้องทำต่อเนื่อง วันละเล็กวันละน้อย กว่าจะบรรลุขั้น ‘ หัวใจ Y’ อาจจะยาก แต่เพื่อคนที่เรารัก มันคุ้มที่จะเริ่มต้นทำมิใช่หรือ ?

ขอขอบคุณ บทความ หัวใจ วาย ฉบับ วินทร์ เหลียววารินทร์

8 ความเห็น »