ตอนที่ 1 ไม่มีใครโชคร้ายตลอด และ ก็ไม่มีใครที่โชคดี ตลอดเช่นกัน
….เคยได้ดูโฆษณา แฮปปี้ ในโรงหนัง ของเครือ SF กันบ้างหรือ ป่าว
จำเรื่องการปิดเครื่องมือสื่อสารก่อนดูหนังกันได้มั้ย.. เรื่องโทรจิตนะชอบมาก
ไม่เคยคิดว่า โทรศัพท์ จะเป็นอะไรที่สำคัญกับชีวิต มากมาย ไม่เคยคิดว่าการสื่อสารฝ่ายเดียว มัน จะลำบากอะไร …
และไม่เคยคิดว่า สักวันนึงถ้าไม่มี จะลำบากแค่ไหน
แล้ววันนี้ก็มาถึง เมื่อโทรศัพท์หายไป ……………หายไป ในที่นี้ คือ วันที่ โทรศัพท์ หายไปจากชีวิต ฉัน …..
……………..การหายไปของโทรศัพท์วันแรก ทำให้ฉันตื่นสาย …..เกือบเข้างานไม่ทัน
OMG !!! …. สาม ทุ่ม นี่มันอะไรกัน ทำมัย ไม่มีใครปลุกกันเลย โทษคนอื่นอีก
ตื่นขี้นมาหาโทรศัพท์ แบตเตอรี่ ตัวดี นอนนิ่งสนิท ไม่เหลือ สักอึดใจเดียว จับเสียบปลั๊ก เฮร้ย ไม่ติด
วิ่ง หาปลั๊กอื่น เสียบใหม่ เฮ้อโล่งชาร์ตได้แระ
.. รีบอาบน้ำด้วยความเร็วปานสายฟ้าแลบแล้วรีบ ลงมาจากคอนโด …………..
……………… วันนี้ คอนโด ชั้น 12 ที่อาศัยอยู่ทำมัย มันใช้เวลาในการเดินทาง ยาวนานเยี่ยงนี่ …..
ออ … ก่อนลงมา ก็ไม่ลิมที่ จะคว้านาฬิกา ติดกระเป๋ามาด้วย กลัว ที่ชาร์ตไว้ เสี้ยววินาทีนั้น จะไม่พอ ทำให้ไม่รู้เวลา
ลงมาถึงโชคดีของฉัน มีรถเข้ามาส่งคนในคอนโด พอดี …………..
Mukmik: เทพารักษ์ ไปมั้ยค่ะ ( ไกลอ่ะ จะไปไหมหว่า )
Taxi : (ทำสีหน้าครุ่นคิด ได้โปรดไปเถอะนะภาวนาในใจ ) ตรงไหนคับ
Mukmik : ก่อนแยกนิดหน่อย ค่ะ ( ทำเสียงอ่อย ๆ ไม่ไปแน่เลยอ่ะ จิตตกอีกแระ)
Taxi : ไปคับ (แม่เจ้า รีบขี้นรถ รีบปิดประตู กลัวเค้าเปลี่ยนใจ)
โชคดี ที่พี่ Taxi คนนี้ ขับ ออกเส้นทางที่โอเค และทำความเร็วในระดับที่พอใจไม่ได้ไปบอกเร่งเค้า นึกในใจยังโชคดีนะนี่
นั่งไปได้สักพัก หยิบนาฬิกาที่ คว้าติดมาในกระเป๋าขี้นมาใส่ที่ข้อมือ เหลือบไปดูว่า กี่ทุ่มแล้ว
… โอ้วววววววววววอารายกัน นาฬิกาตาย ฉันเป็นคนไม่รู้เวลา ……..
นั่งจิตตก ตุ้ม ๆๆต่อม ๆๆ ตลอดทาง…………….แต่ พี่เค้าซี่งหน้าดู
เหมือนรู้ใจกันอย่างไรอย่างนั้น รถก็ไม่ติด โชคเป็นของเราอีกแล้ว … นั่งยิ้มให้กับตัวเอง หุหุ…
ท่าจะบ้าไปแล้ว..ดีที่โทรศัพย์ ยังพอ ที่จะเปิดขี้นมาได้หน่อย นึง แต่เสียงแบตเตอรี่ ก็ได้ส่งเสียงตืน ตลอดเวลา ….. และแล้วมันก็
มันก็ ลาฉันไปอีกรอบ หมดกัน เวลาไม่มีเวลา … การสื่อสารถูกตัดขาด ……………………….
การ รู้สึกเหมือนตัวเอง ถูกปล่อย ให้เคว้งคว้างกลางทะเลกว้าง ไม่รู้ทิศเหนือใต้ อย่างไรอย่างนั้น………
แต่ดูจากที่หน้าปัดบอกความเร็วรถ เราหน้า จะทันอยู่นา เมื่อใกล้ถึง ก็หยิบกระเป๋า สตังค์ขี้นมา
เปิดกระเป๋าเตรียมจ่ายค่ารถ มิเตอร์ตอนนี้ 159 บาท ขอร้องออกมาอีกทีว่า แม่เจ้า !!!!
ตังค์ในกระเป๋ามี 20 บาท กรรมอารายของฉันนี่วันนีี้ ……….. แต่ก็โชคดีอีกหล่ะ วันนี้ฉันพกบัตรเอทีเอ็ม มาด้วย เฮ้อ รอดไป
พอถึงให้คุณพี่ Taxi จอดรถ ก็บอกไปตามตรง ด้วยน้ำเสียงที่ คิดว่าดูดีที่สุดแล้ว พี่ค่ะ รอแป๊บนึงนะค่ะ ไปกดตังค์ให้ก่อน …
พี่เค้าจะตอบว่าอะไรไม่รู้ รีบวิ่งลงจากรถ รีบกด รีบ เอาไปให้ …ยื่นให้คุณพี่ ใจดีที่รอเราอยู่
(มัยไม่รอละ ค่าโดยสารยังไม่ได้นี่ ) ยืนไปสองร้อย รับตังค์ทอนมา 20
ทิปไปนิดหน่อย กับ การต้องทำให้คนอื่นต้องรอคอยโดยไร้ความผิด อ้าวมัวแต่ โล่งไปได้ ยังไม่ได้ตอกบัตรเข้างานนี่หว่า รีบวิ่ง สุดตีน …
หยิบบัตรพนักงาน มา แต่ไกล เห็นตัวเลขแดง ๆๆ ..21.58 รีบยื่นมือ (กรุณานึกเป็นภาพสโมชั่น)
ติ๊ด ….. วันนี้เสียงแตะบัตรมันดังไพเพราะกว่าทุกวันเวลา 21.59
………………….เฮ้ย..โชคดีจัง ทันด้วย…..วันนี้ โชคไม่ดี และโชคดี กี่ครั้ง… กันนี่ ….